Download

บริษัทฯ ได้เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยในเดือน สิงหาคม 2531และได้แปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนในเดือนธันวาคม 2535 ทั้งนี้ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2559 บริษัทฯ มีทุนจดทะเบียนทั้งสิ้น 587,426,511 บาท และมีทุนชำระแล้ว 586,104,798 บาท

ลักษณะผลิตภัณฑ์

PCB เป็นส่วนประกอบสำคัญของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชิ้นที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวันจะต้องมีแผ่น PCB อย่างน้อย 1 ชิ้น หรือมากกว่า PCB เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของวงจรอิเล็กทรอนิกส์ ลักษณะเป็นแผ่นที่มีลายวงจรทองแดงเป็นทางเดินสัญญาณไฟฟ้าอยู่ ใช้สำหรับต่อวางอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์เพื่อประกอบเป็นวงจรแทนการต่อวงจรด้วยสายไฟซึ่งมีความซับซ้อนและยุ่งยาก

PCB ประกอบด้วยส่วนสำคัญ 2 ส่วนคือ แผ่นฐาน หรือซับสเต็รท (substrate) กับส่วนที่เป็นตัวนำ แผ่นฐานเป็นฉนวนบางๆทำหน้าที่เป็นฐานที่วางและยึดติดตัวอุปกรณ์ โดยมีตัวนำไฟฟ้าที่เป็นทองแดงเป็นตัวต่อวงจรให้แก่อุปกรณ์ แผ่นฐานจะทำจากวัสดุอีพ็อกซีไฟเบอร์กลาส ซึ่งเป็นการทอใยแก้วเข้าด้วยกันแล้วยึดด้วยอีพ็อกซีเรซิ่น มีคุณสมบัติดี สามารถใช้งานได้กับงานหลายประเภทเพราะทนต่อความชื้นและอุณหภูมิสูง ไม่บิดงอได้ง่าย แผ่นฐานมักเป็นสีเขียวหรือสีฟ้า

แผ่นวงจรนี้อาจทำเพียงหน้าเดียว หรือสองหน้า แต่ถ้าวงจรมีความหนาสูงและมีความซับซ้อนมากๆก็อาจจะต้องทำเป็นหลายๆชั้นก็ได้ ตามความต้องการของผู้ออกแบบ

  1. PCB ชนิดหน้าเดียว (Single sided) มีเส้นลายวงจรเพื่อเชื่อมสัญญาณไฟฟ้าอยู่เพียงด้านเดียว
  2. PCB ชนิดสองหน้าเคลือบรู (Double sided Plated-Through Hole) มีเส้นลายวงจรเพื่อเชื่อมสัญญาณ ไฟฟ้าอยู่ทั้งสองด้าน มีการเจาะรูบนแผ่นฐานเพื่อเป็นที่ไว้สอดขาอุปกรณ์ และมีการเคลือบผิวภายในรูด้วยทองแดง เพื่อเชื่อมต่อสัญญาณไฟฟ้าระหว่างด้านหน้าและด้านหลังของแผ่นบอร์ด
  3. PCB ชนิดหลายชั้น (Multilayer) มีเส้นลายวงจรเพื่อเชื่อมสัญญาณไฟฟ้าระหว่างชั้นใน (Inner Layer) และชั้นนอก (Outer Layer)

ทั้งนี้ PCB ที่บริษัทฯ เป็นผู้ผลิต มีอยู่ 2 แบบ คือ

  1. การผลิตแบบ 2 หน้าเคลือบรู (Double sided PLATED-THROUGH HOLES PCB) และ
  2. การผลิตแบบหลายชั้น (Multilayer PCB) ซึ่งมีความซับซ้อนกว่า และใช้เทคโนโลยีสูงกว่าการผลิตแผ่นพิมพ์วงจรชนิด 2 หน้า ซึ่งในปัจจุบัน บริษัทฯ มีความสามารถในการผลิตได้ตั้งแต่ 4 ชั้น ถึง 24 ชั้น

แผ่นพิมพ์วงจรอิเล็กทรอนิกส์ทั้งสองแบบนี้ถูกนำไปใช้ในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น ในอุตสาหกรรมยานยนต์ อุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์ที่ใช้ในอุตสาหกรรม อุปกรณ์โทรคมนาคมต่างๆ รวมถึง เครื่องมือทางการแพทย์ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น

เนื่องจากในการผลิต PCB ต้องใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัย มีเทคนิคพิเศษเฉพาะ และต้องได้มาตรฐานคุณภาพที่เป็นที่ยอมรับของอุตสาหกรรม บริษัทฯ จึงต้องมีการพัฒนาคุณภาพ เทคโนโลยีการผลิตและทักษะของพนักงานผลิตอยู่ตลอดเวลา บริษัทฯได้ขยายโรงงานเพื่อเพิ่มกำลังการผลิตอย่างต่อเนื่อง และได้แต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายในต่างประเทศหลายแห่ง เพื่อตอบสนองความต้องการ (Demand) ในผลิตภัณฑ์ PCB ที่เติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์ของโลก

โรงงานผลิต

โรงงานและสำนักงานที่ใช้ในการผลิตวัตถุดิบและผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีดังนี้

  วัตถุดิบ/ผลิตภัณฑ์
บริษัท ไทยลามิเนต แมนูแฟคเจอเรอร์ จำกัด (บริษัทย่อย)
ตั้งอยู่เลขที่ 70 - 70/1 นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
ซอยฉลองกรุง 31 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานครฯ
Lamainate, Prepreg
บริษัท เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน)
ตั้งอยู่เลขที่ 72 - 72/1-3 นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง
ซอยฉลองกรุง 31 แขวงลำปลาทิว เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานครฯ
PCB
บริษัท เค.ซี.อี. อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (บริษัทย่อย)
ตั้งอยู่เลขที่ 677 หมู่ 4 ถนนสุขุมวิท นิคมอุตสาหกรรมบางปู
ตำบลแพรกษา อ. เมืองสมุทรปราการ จังหวัดสมุทรปราการ
PCB
บริษัท เคซีอี เทคโนโลยี จำกัด (บริษัทย่อย)
ตั้งอยู่เลขที่ 117,118 หมู่ 1 นิคมอุตสาหกรรมบ้านหว้า(ไฮเทค)
ถนนสาย เอเชีย-นครสวรรค์ ตำบลบ้านเลน
อำเภอบางปะอิน จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
PCB
บริษัท เคมโทรนิคส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทย่อย)
ตั้งอยู่เลขที่ 1/28 หมู่ที่ 5 สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ตำบลคานหาม
อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
น้ำยาเคมี
บริษัท เคมโทรนิคส์ โปรดักส์ จำกัด (บริษัทย่อย)
ตั้งอยู่เลขที่ 1/28 หมู่ที่ 5 สวนอุตสาหกรรมโรจนะ ตำบลคานหาม
อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
น้ำยาเคมี

การเปลี่ยนแปลงและพัฒนาการที่สำคัญในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา

ปี 2555
มกราคม 2555 บริษัทฯ เข้าร่วมลงทุนในบริษัท เคซีอี ไต้หวัน จำกัด ปัจจุบันมีทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว NTD 3,000,000 ซึ่งดำเนินธุรกิจเป็นตัวแทนจัดหาวัตถุดิบและเครื่องจักรในต่างประเทศให้กับกลุ่มบริษัท โดยบริษัทฯ ถือหุ้น ร้อยละ 49 ของทุนจดทะเบียนเรียกชำระแล้ว
ตุลาคม 2555 กลุ่มบริษัทได้มาซึ่งอำนาจควบคุมในบริษัท เคมโทรนิคส์ เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด (“เคมโทรนิคส์”) ซึ่งประกอบกิจการโรงงานหมึกพิมพ์ลายแผงวงจรไฟฟ้าและน้ำยาเคมีที่ใช้ในกระบวนการผลิตแผงวงจรไฟฟ้า โดยการซื้อหุ้นทุนในบริษัท ร้อยละ 97.25 ของหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมด จำนวน 48,000,000 บาท ทำให้กลุ่มบริษัทเกิดการผนึกกำลังมีความสามารถในกระบวนการผลิตที่เพิ่มขึ้น เพิ่มขีดความสามารถในการผลิตสารเคมีที่สำคัญไว้ใช้ได้เอง และลดการพึ่งพาการจัดหาน้ำยาเคมีจากแหล่งภายนอก
ปี 2556
เมษายน 2556 จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 30/2556 โดยมีวาระที่สำคัญ คือ
  • อนุมัติงบการเงินของบริษัทสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2555
  • อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2555
  • อนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 491,829,500 บาท เป็น 476,853,769 บาท แบ่งออกเป็น 476,853,769 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท
  • อนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 2 (“ใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 2”) จำนวนไม่เกิน 115,248,942 หน่วย แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering) ในอัตราส่วน 4 หุ้นสามัญต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า และมีราคาใช้สิทธิ 5 บาท ต่อหุ้น
  • อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 476,853,769 บาท เป็น 592,421,582 บาท แบ่งออกเป็น 592,421,582 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 115,567,813 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท
  • อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 115,567,813 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิครั้งที่ 2 ที่จะจัดสรรให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัท และการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิ ESOP-W3 และ ESOP-W4
พฤษภาคม 2556 จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานของปี 2555 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท จำนวน 460,976,969 หุ้น คิดเป็น จำนวนเงินปันผลรวม 161,341,939 บาท
พฤษภาคม 2556 คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติโครงการขายหุ้นที่ซื้อคืน จำนวน 14 ล้านหุ้น โดยมีกำหนดระยะเวลาในการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ตั้งแต่วันที่ 11 มิถุนายน 2556 ถึงวันที่ 19 มิถุนายน 2556
มิถุนายน 2556 บริษัทฯ ได้ลดทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ โดยการตัดหุ้นที่ซื้อคืนที่ยังไม่ได้จำหน่ายทั้งหมด จากทุนจดทะเบียนเดิม 592,421,582 บาท และทุนชำระแล้ว 474,995,769 บาท เป็นทุนจดทะเบียน 578,421,582 บาท และทุนชำระแล้ว 460,995,769 บาท
มิถุนายน 2556 ทํารายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ อนุมัติการลงทุนในโครงการสร้างโรงงานใหม่ ขนาดกำลังการผลิต 2 ล้านตารางฟุตต่อเดือน เพื่อขยายกำลังการผลิตสำหรับรองรับปริมาณคำสั่งซื้อที่เพิ่มขึ้น มูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้น 4,675 ล้านบาท
กรกฎาคม 2556 จากการปรับโครงสร้างองค์กร คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่ และแต่งตั้ง นายพิธาน องค์โฆษิต เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ
กันยายน 2556 จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก ของปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท จำนวน 461,595,269 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลรวม 115,398,817 บาท
กันยายน 2556 จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการ Corporate Governance Committee
พฤศจิกายน 2556 บริษัทฯ เข้าร่วมโครงการ และลงนามในคำประกาศเจตนารมณ์แนวร่วมปฏิบัติของภาคเอก ชนไทยในการต่อต้านการทุจริต
ธันวาคม 2556 ลงนามในสัญญาสนับสนุนทางการเงินกับสถาบันการเงิน วงเงินรวม 4,150 ล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงความน่าเชื่อถือและความแข็งแกร่งทางการเงินของ KCE
ปี 2557
มีนาคม 2557 แต่งตั้งคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง
เมษายน 2557 จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 31/2557 โดยมีวาระที่สำคัญ คือ
  • อนุมัติงบการเงินของบริษัทสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2556
  • อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2556
  • อนุมัติแต่งตั้งนายพิธาน องค์โฆษิต เป็นกรรมการ
  • อนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 578,421,582   บาท เป็น 557,426,511 บาท แบ่งออกเป็น 557,426,511  หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท
  • อนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทให้แก่กรรมการ ผู้บริหาร พนักงานของบริษัท และ/หรือบริษัทย่อย (ESOP-W5) จำนวนไม่เกิน 10,000,000 หน่วย
  • อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 577,426,511  บาท เป็น 587,426,511 บาท แบ่งออกเป็น 587,426,511 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 10,000,000 หุ้น มูลค่าหุ้นละ 1.00 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิของโครงการ ESOP-W5
  • อนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 10,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิตามใบสำคัญแสดงสิทธิของโครงการ ESOP-W5
พฤษภาคม 2557 จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2556 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท จำนวน 549,017,741 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลรวม 274,508,871 บาท
กันยายน 2557 จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรก ของปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.40 บาท จำนวน 557,911,031 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลรวม 223,164,412 บาท
พฤศจิกายน 2557 บริษัทฯ เข้าซื้อหุ้นสามัญของบริษัท เคซีอี สิงคโปร์ พีทีอี จำกัด เพิ่มเติมร้อยละ 51 ทำให้สัดส่วนการถือหุ้นเพิ่มขึ้นจาก 24.5% เป็น 75.5% และส่งผลให้กลุ่มบริษัทถือหุ้นในเคซีอี สิงคโปร์ ร้อยละ 100 และมีสถานะเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ
พฤศจิกายน 2557 ผลการประเมินผลการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ปี 2557 บริษัทฯ ได้รับการประเมินให้อยู่ในกลุ่มคะแนนระดับ "ดีมาก"
ปี 2558
เมษายน 2558 บริษัทเคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) ได้ผ่านการรับรองเป็นเป็นสมาชิกโครงการแนวร่วมปฎิบัติของภาคเอกชนไทยในการต่อต้านการทุจริต (สมาชิกลำดับที่ 103
เมษายน 2558 จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 32/2558 โดยมีวาระที่สำคัญ คือ
  • อนุมัติงบการเงินของบริษัทสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2557
  • อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2557
พฤษภาคม 2558 จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2557 ในอัตราหุ้นละ 0.70 บาท จำนวน 568,693,319 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลรวม 398,085,323 บาท
กันยายน 2558 จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท จำนวน 570,144,941 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลรวม 285,072,470 บาท
ตุลาคม 2558 ผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ปี 2558 บริษัทฯ ได้รับการประเมินให้อยู่ในกลุ่มคะแนนระดับ "ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring)
บริษัทจัดอยู่ในกลุ่ม Top Quartile ของบริษัทจดทะเบียน ในกลุ่มตามมูลค่าทางการตลาด Market Capitalization มากกว่า 10,000 ล้านบาท
พฤศจิกายน 2558 2015 SET Awards โดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยร่วมกับวารสารการเงินธนาคารได้พิจารณาคัดเลือกให้บริษัทได้รับรางวัลดีเด่น จำนวน 2 ประเภทรางวัล ได้แก่ รางวัลผู้บริหารสูงสุด และรางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงาน ประจำปี 2558 ในกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด Market Capitalization ระหว่าง 10,000 - 30,000 ล้านบาท
ปี 2559
เมษายน 2559 จัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 33/2559 โดยมีวาระที่สำคัญ คือ
  • อนุมัติงบการเงินของบริษัทสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558
  • อนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2558
พฤษภาคม 2559 จ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2558 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท จำนวน 576,244,203 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลรวม 576,244,203 บาท
พฤษภาคม 2559 คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง บริษัทเคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) - ครั้งที่ 1 (Employee Joint Investment Program "KCE EJIP No. 1") ให้กับพนักงานผู้บริหารของบริษัทฯ และบริษัทย่อย
มิถุนายน 2559 สำนักงาน กลต. ให้ความเห็นชอบในโครงการร่วมลงทุนระหว่างนายจ้างและลูกจ้าง บริษัทเคซีอี อีเลคโทรนิคส์ จำกัด (มหาชน) - ครั้งที่ 1 (Employee Joint Investment Program "KCE EJIP No. 1")
มิถุนายน 2559 วันที่ 17 มิถุนายน 2559 เป็นวันใช้สิทธิครั้งสุดท้ายของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทฯ ครั้งที่ 2 (“Warrant KCE-W2”)
กรกฎาคม 2559 KCE เข้า SET 50 Index ในรอบ 1 กรกฏาคม - 31 ธันวาคม 2559
กรกฎาคม 2559 คณะกรรมการบริษัทฯ อนุมัติการทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ ได้แก่
  • จัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่ (บจ. เคมโทรนิคส์ โปรดักส์) และ
  • โครงการลงทุนเพื่อขยายกำลังการผลิตของบริษัทย่อย (บจ. เคซีอี เทคโนโลยี)
กันยายน 2559 จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกของปี 2559 ในอัตราหุ้นละ 1.00 บาท จำนวน 586,010,798 หุ้น คิดเป็นจำนวนเงินปันผลรวม 586,010,798 บาท
ตุลาคม 2559 ผลประเมินการกำกับดูแลกิจการบริษัทจดทะเบียนไทย ปี 2559 บริษัทฯ ได้รับการประเมินให้อยู่ในกลุ่มคะแนนระดับ "ดีเลิศ" (Excellent CG Scoring) เป็นปีที่ 2 ต่อเนื่อง
บริษัทจัดอยู่ในกลุ่ม Top Quartile ของบริษัทจดทะเบียน ในกลุ่มตามมูลค่าทางการตลาด Market Capitalization มากกว่า 10,000 ล้านบาท
ตุลาคม 2559 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการทำรายการได้มาซึ่งสินทรัพย์ - ซื้อที่ดินพร้อมอาคารสำนักงาน ที่โตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อรองรับการขยายธุรกิจในประเทศญี่ปุ่นในอนาคต
ตุลาคม 2559 คณะกรรมการบริษัทฯ มีมติจัดตั้งคณะกรรมการนโยบายการบริหารความเสี่ยงองค์กร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดนโยบายในการบริหารความเสี่ยงในระดับกลยุทธ์ และสนับสนุนการดำเนินงานของคณะกรรมการบริหารความเสี่ยงระดับจัดการได้นำไปดำเนินการให้บรรลุเป้าหมาย
ประกาศเมื่อ
2 ก.พ. 2560
พิจารณาคัดเลือกให้บริษัทได้รับรางวัลประจำปี 2559 ได้แก่ รางวัลบริษัทจดทะเบียนด้านผลการดำเนินงานยอดเยี่ยม ในกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาด Market Capitalization ระหว่าง 30,000-100,000 ล้านบาท รางวัลผู้บริหารสูงสุดดีเด่น (Outstanding CEO Award) และ รางวัลผู้บริหารสูงสุดรุ่นใหม่ (Young Rising Star CEO Award)

นโยบายและภาพรวมในการประกอบธุรกิจ

บริษัทฯ และบริษัทย่อยประกอบธุรกิจในการผลิตและจำหน่ายแผ่นพิมพ์วงจร หรือ PCB ที่เป็นส่วนประกอบพื้นฐานของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท โดยกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ โรงงานผลิตชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับยานยนต์ โรงงานประกอบเครื่องมือสื่อสารคมนาคม เครื่องคอมพิวเตอร์ หรือกลุ่มลูกค้าที่ทำอุปกรณ์ที่ใช้ในภาคอุตสาหกรรม เครื่องมือทางการแพทย์ และกลุ่มลูกค้าสินค้าอุปโภค โดยการผลิตเกือบทั้งหมดเป็นการผลิตเพื่อส่งออกไปยังหลายประเทศทั่วโลก ทั้งในยุโรป สหรัฐอเมริกา และในเอเชีย

การดำเนินงานของบริษัทในกลุ่ม ยึดถือนโยบายหลักที่จะมุ่งมั่นสู่ความเป็นเลิศในการดำเนินการผลิต โดยการริเริ่มสร้างสรรค์กลยุทธ์ต่างๆ เพื่อให้ได้สินค้าที่มีคุณภาพที่ดีกว่าในต้นทุนที่ต่ำลง บริษัทยังคงมุ่งเน้นหาโอกาสเพื่อเพิ่มกำไรอยู่เสมอ โดยการใช้เทคโนโลยีการผลิตสมัยใหม่ และการใช้ทรัพย์สินที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์อย่างเต็มที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตสูงสุด นโยบายหลักที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ ความมุ่งมั่นในการรักษาสัมพันธ์ภาพกับลูกค้าในระยะยาวด้วยการให้สิ่งที่คุณค่ามากที่สุด นั่นคือประวัติความมีชื่อเสียงด้านคุณภาพที่ได้รับความเชื่อถือจากลูกค้ามาอย่างยาวนาน นอกจากนั้น บริษัทยังมีนโยบายที่มุ่งเน้นในความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้เสียและสังคม ด้วยการพัฒนา "Green" Technology อีกด้วย

ในด้านการบริหารงาน คณะกรรมการมีหน้าที่ในการกำหนดกลยุทธ์ และนโยบายหลักของกลุ่ม ในต้นเดือนมกราคม 2559 มีการจัดประชุม CEO พบผู้บริหารประจำปี เพื่อสื่อสารกลยุทธ์และกำหนดเป้าหมายในการดำเนินงาน(KPI) ของโรงงาน และแต่ละส่วนงาน ซึ่งผู้บริหารในแต่ละส่วนงานก็ได้จัดการประชุมภายในแต่ละแผนกเพื่อสื่อสารกลยุทธ์และเป้าหมายถึงระดับพนักงานต่อไป ในระหว่างปี มีการติดตามผลการดำเนินงานอย่างจริงจังและเป็นรูปธรรมโดยการวัดผลคะแนน KPI แต่ละข้อ เทียบกับเป้าหมายที่ตั้งไว้ ผู้บริหารในแต่ละสายงานจะรายงานผลการปฏิบัติงานต่อประธานเจ้าหน้าที่บริหารในการประชุมผู้จัดการ ซึ่งจัดขึ้นเป็นประจำทุกเดือน ทั้งนี้ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารยังได้รายงานผลการปฏิบัติงานตามกลยุทธ์ต่อที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทด้วยในทุกไตรมาส

โครงสร้างการถือหุ้นของบมจ. เคซีอี อีเลคโทรนิคส์ บริษัทย่อยและบริษัทร่วม